วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2551

คำถามท้ายบทที่ 1

1.คอมพิวเตอร์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง พร้อมรูปประกอบ


ประเภทของคอมพิวเตอร์
ในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ได้ใช้วงจรเบ็ดเสร็จขนาดใหญ่มาก (very large scale integrated circuit) ซึ่งสามารถบรรจุทรานซิสเตอร์ได้มากกว่าสิบล้านตัว เราสามารถแบ่งคอมพิวเตอร์ในรุ่นปัจจุบันออกเป็น 4 ประเภทดังต่อไปนี้

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (supercomputer)
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ถือได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วมาก และมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์ชนิดอื่น ๆ เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีราคาแพงมาก มีขนาดใหญ่ สามารถคำนวณทางคณิตศาสตร์ได้หลายแสนล้านครั้งต่อวินาที และได้รับการออกแบบ เพื่อให้ใช้แก้ปัญหาขนาดใหญ่มากทางวิทยาศาสตร์และทางวิศวกรรมศาสตร์ได้อย่างรวดเร็ว เช่น การพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเป็นเวลาหลายวัน การศึกษาผลกระทบของมลพิษกับสภาวะแวดล้อมซึ่งหากใช้คอมพิวเตอร์ชนิดอื่นๆ แก้ไขปัญหาประเภทนี้ อาจจะต้องใช้เวลาในการคำนวณหลายปีกว่าจะเสร็จสิ้น ในขณะที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามารถแก้ไขปัญหาได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เนื่องจากการแก้ปัญหาใหญ่ ๆ จะต้องใช้หน่วยความจำสูง ดังนั้น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จึงมีหน่วยความจำที่ใหญ่มาก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีหลายประเภท ตั้งแต่รุ่นที่มีหน่วยประมวลผล (processing unit) 1 หน่วย จนถึงรุ่นที่มีหน่วยประมวลผลหลายหมื่นหน่วยซึ่งสามารถทำงานหลายอย่างได้พร้อม ๆ กัน

เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (mainframe computer)
เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ มีสมรรถภาพที่ต่ำกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์มาก แต่ยังมีความเร็วสูง และมีประสิทธิภาพสูงกว่ามินิคอมพิวเตอร์หรือไมโครคอมพิวเตอร์ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์สามารถให้บริการผู้ใช้จำนวนหลายร้อยคนพร้อม ๆ กัน ฉะนั้น จึงสามารถใช้โปรแกรมจำนวนนับร้อยแบบในเวลาเดียวกันได้ โดยเฉพาะถ้าต่อเครื่องเข้าเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้สามารถใช้ได้จากทั่วโลก ปัจจุบัน องค์กรใหญ่ๆ เช่น ธนาคาร จะใช้คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ในการทำบัญชีลูกค้า หรือการให้บริการจากเครื่องฝากและถอนเงินแบบอัตโนมัติ (automatic teller machine) เนื่องจากเครื่องเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ได้ถูกใช้งานมากในการบริการผู้ใช้พร้อม ๆ กัน เมนเฟรมคอมพิวเตอร์จึงต้องมีหน่วยความจำที่ใหญ่มาก

มินิคอมพิวเตอร์ (minicomputer)
มินิคอมพิวเตอร์ คือ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ๆ ซึ่งสามารถบริการผู้ใช้งานได้หลานคนพร้อม ๆ กัน แต่จะไม่มีสมรรถภาพเพียงพอที่จะบริการผู้ใช้ในจำนวนที่เทียบเท่าเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ได้ จึงทำให้มินิคอมพิวเตอร์เหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลาง หรือสำหรับแผนกหนึ่งหรือสาขาหนึ่งขององค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น

ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) หรือ พีซี (personal computer หรือ PC )
ไมโครคอมพิวเตอร์ คือ คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กแบบขนาดตั้งโต๊ะ (desktop computer) หรือขนาดเล็กกว่านั้น อาทิเช่น ขนาดสมุดบันทึก (notebook computer) และขนาดฝ่ามือ (palmtop computer) ไมโครคอมพิวเตอร์ได้เริ่มมีขึ้นในปีพ.ศ. 2518 ถึงแม้ว่าในระยะหลัง เครื่องชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพที่สูง แต่เนื่องจากมีราคาไม่แพงและมีขนาดกระทัดรัด ไมโครคอมพิวเตอร์จึงยังเหมาะสำหรับใช้ส่วนตัว ไมโครคอมพิวเตอร์ได้ถูกออกแบบสำหรับใช้ที่บ้าน โรงเรียน และสำนักงานสำหรับที่บ้าน เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการทำงบประมาณรายรับรายจ่ายของครอบครัวช่วยทำการบ้านของลูกๆ การค้นคว้าข้อมูลและข่าวสาร การสื่อสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ (electronic mail หรือ E - mail) หรือโทรศัพท์ทางอินเทอร์เน็ต (internet phone) ในการติดต่อทั้งในและนอกประเทศ หรือแม้กระทั่งทางบันเทิง เช่น การเล่นเกมบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ สำหรับที่โรงเรียน เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการช่วยสอนนักเรียนในการค้นคว้าข้อมูลจากทั่วโลกสำหรับที่สำนักงาน เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการช่วยพิมพ์จดหมายและข้อมูลอื่นๆ เก็บและค้นข้อมูล วิเคราะห์และทำนายยอดซื้อขายล่วงหน้า






2. คอมพิวเตอร์แบบฝังคืออะไร ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง พร้อมรูปประกอบ






คอมพิวเตอร์แบบฝัง(Embeded computers)
เป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกฝังไปในอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้มองไม่เห็นจากรูปลักษณ์ภายนอกว่าเป็นคอมพิวเตอร์เช่น นิยมใช้การทำงานเฉพาะด้าน โดยทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมหน้าที่การทำงานบางอย่าง เช่นเตาอบไฟฟ้า นาฬิกาข้อมือ อุปกรณ์เล่นเกม

URL:http://web.udru.ac.th/~comed4554/4554144102/embededcomputer.html


3. ข้อมูลและสารสนเทศแตกต่างกันอย่างไร


ข้อมูล (data) หรือ ข้อมูลดิบ หมายถึง ข้อเท็จจริง หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น อาจจะเป็นตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ก็ได้. ข้อมูลที่ดีจะต้องมีความถูกต้องแม่นยำ และเป็นปัจจุบัน เช่น ปริมาณ ระยะทาง ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ คะแนนของนักเรียน รายงาน บันทึก ฯลฯ


ระบบ การจัดการความรู้ ทั้งหมดได้แก่
ข้อมูล -->
สารสนเทศ --> ความรู้ --> ความชำนาญ
ข้อมูลเหล่าที่ผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว เราจะเรียกว่า สารสนเทศ (information)
ข้อมูล -> (กระบวนการประมวลผล) -> สารสนเทศ


ข้อแตกต่างระหว่างข้อมูลและสารสนเทศ
ข้อมูลแตกต่างจากสารสนเทศคือ ข้อมูลเป็น ส่วนของข้อเท็จจริง โดยได้จากการเก็บมาจากเหตุการณ์ต่างๆ สารสนเทศคือข้อมูลที่นำมาผ่านกระบวนการเพื่อสามารถนำไปใช้ ในการตัดสินใจต่อไปได้ทันทีหรือการนำข้อมูลมาประมวลผลเพื่อการนำไปใช้งาน ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตัวอย่างข้อแตกต่างระหว่างข้อมูลและสารสนเทศ
ข้อมูล: นิสิตในมหาวิทยาลัยนเรศวรมีจำนวน 36,000 คน อาจารย์มีจำนวน 350 คน
สารสนเทศ: อัตรานิสิตต่ออาจารย์ของมหาวิทยาลัยนเรศวร = 36,000/350 = 102.86


URL:http://th.wikipedia.org/wiki/ข้อมูล


4. VLSI คืออะไร มีความสำคัญต่อคอมพิวเตอร์อย่างไร


VLSI ย่อมาจาก Very Large Scale Integration Circuit มีหลักการทำงานคือ สามารถเพิ่มปริมาณวงจรหลายหมื่นวงจรบน แผ่นซิลิกอน




5. นิสิตใช้คอมพิวเตอร์ในอะไรบ้างให้อธิบาย


ใช้ในการศึกษาหาข้อมูลต่างๆที่เราอยากรู้ การพิมพ์ การส่งE-mail,Gmail, Hi5 การทำรายงาน การเปรียบเทียบข้อมูลและนำข้อมูลไปประกอบกันจนเกิดข้อมูลดีๆ

วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ไข่อีสเตอร์ใน Firefox 3.0










นายเกาเหลาดาวน์โหลด Firefox 3.0 มาติดตั้ง และลองใช้งานดูแล้วครับ ต้องขอบอกว่า เร็วขึ้นกว่าเดิมจนรู้สึกได้ แถมยังมาพร้อมกับคุณสมบัติการทำงานที่น่าสนใจมากมาย แต่ที่จะเล่าสู่กันฟังวันนี้เป็นเรื่องของไข่อีสเตอร์(easter egg) หรือลูกเล่นที่ซ่อนอยู่ในโปรแกรมครับ
สำหรับ easter egg ที่ซ่อนอยู่ใน Firefox 3.0 สามารถเข้าถึงได้ด้วยการพิมพ์คำสั่ง about:robots เข้าไปในช่องแอดเดรส แล้วกด Enter คุณจะพบกับหน้าเว็บข้างล่างนี้













หน้าเว็บหุ่นยนต์จะอ้างถึงกฎเหล็กที่หลายท่านคุ้นเคย โดยเฉพาะเรื่องของการไม่ทำร้ายมนุษย์ พร้อมทั้งแสดงปุ่มให้ลองกด(Try Again)อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพอคลิกไปแล้ว เจ้าปุ่มดังกล่าวเปลี่ยนข้อความเป็นว่า "กรุณาอย่ากดปุ่มอีกครั้ง" (Please do not press this button again)อ้าว...ไหงพูดอย่างนี้ล่ะ พูดอย่างนี้มันก็ท้าทายก็นี่นา เป็นหุ่นยนต์นะ จะมาเจ๋งกว่ามนุษย์ได้ไง ว่าแล้วนายเกาเหลาก็เลยคลิกปุ่มอีกครั้งหนึ่ง...อยากทราบใช่ไหมครับว่า เกิดอะไรขึ้น...คราวนี้เจ้าหุ่นยนต์มันริบปุ่มไปเลยไม่ให้ได้กดอีกต่อไปแล้ว
โดย นายเกาเหลาอัพเดต 19 มิถุนายน 2008 เวลา 20:27 น.

ออราเคิลประเดิม "บีอีเอ" เพิ่มค่าไลเซ่น 15-20%







ข่าวต่างประเทศ - รายงานข่าวจากไอดีจี นิวส์ เซอร์วิส กล่าวว่า ออราเคิลเพิ่มราคาสินค้า ตามกระแสเศรษฐกิจที่กำลังปั่นป่วนทั่วโลก ก่อนเตรียมประกาศรายงานตัวเลขรายได้ประจำปีล่าสุดในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ตัวอย่างสินค้าที่ได้ปรับขึ้นราคา เช่น ไลเซ่นซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลต่อหนึ่งซีพียู เพิ่มเป็น 47,500 ดอลลาร์จากเดิม 40,000 ดอลลาร์ รวมถึงผลิตภัณฑ์กลุ่มแอพพลิเคชั่นอี-บิซิเนส สวีท ซึ่งปรับขึ้นราว 15-20%นอกจากนี้ ออราเคิลยังปรับราคาซอฟต์แวร์ในกลุ่มบริษัทที่เพิ่งควบกิจการอย่างบีอีเอด้วยเช่นกัน โดยจากใบแสดงราคาสินค้าใหม่ระบุว่า ไลเซ่นบีอีเอ เวบลอจิก เซิร์ฟเวอร์ เอ็นเตอร์ไพร์ซ เอดิชั่น ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 25,000 ดอลลาร์ ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาบนเวบไซต์ของตัวแทนจำหน่ายบีอีเอ ในตระกูลผลิตภัณฑ์สูงกว่า กำหนดราคาขายไว้เพียง 17,000 ต่อไลเซ่นนายเรย์ หวัง นักวิเคราะห์จาก กล่าวว่า ราคาที่ระบุไม่ได้เป็นจำนวนเงินที่ลูกค้าจ่ายค่าซอฟต์แวร์จริง เนื่องจากปกติลูกค้าจะสามารถต่อรองราคาขอส่วนลดสินค้าได้ อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าที่ปรับขึ้นในครั้งนี้ทำให้เพดานราคาขยับขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อลูกค้าที่คาดหวังว่าจะได้ส่วนลด 50% ซึ่งอาจจะต้องขอส่วนลดเพิ่มเป็น 60% เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เท่าเดิมทั้งนี้ออราเคิลเตรียมประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด พร้อมผลประกอบการปี 2008 วันที่ 25 มิ.ย.นี้ พร้อมกันนี้บริษัทยังได้กำหนดแถลงผ่านเวบแคสต์วันที่ 1 ก.ค.นี้ โดยผู้บริหารจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนงานสำหรับธุรกิจของบีอีเอที่เพิ่งควบกิจการมา



โดย NOL-News Online : กรุงเทพธุรกิจอัพเดต 24 มิถุนายน 2008 เวลา 09:52 น.

วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2551

SาJาuวิชาคoมพิวIตoร์